Uncategorized
ทำแล้วชีวิตมีสุข
“ทำแล้วชีวิตมีสุข”
1. เราไม่ได้มีชีวิตเพื่อการเฝ้านั่งเสียใจร่ำไห้ หรือ พูดถึงแต่สิ่งที่เราทำผิดพลาดในอดีต รู้จักให้อภัยตัวเองในสิ่งที่เราทำผิดพลาด แล้วไม่นึกถึงมันอีก
2. เรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น ในสิ่งที่เขาทำ
ผิดพลาดในอดีต แล้วไม่พูดถึงมันอีก
3. การปล่อยวางไม่ใช่เป็นการยอมแพ้ ตรงกันข้าม เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากส่วนลึกของหัวใจของเราวัน
ละน้อย เพื่อเอาชนะความอ่อนแอ
4. ชีวิตไม่ได้เติบโตจากการทำให้ทุกสิ่งได้
ดั่งใจของเรา แต่เป็นการยอมรับทุกอย่างที่เข้า
มาในชีวิตของเราอย่างกล้าหาญ รักและ
เข้าใจทุกสิ่งที่เราได้ตัดสินใจทำลงไปทุกครั้ง
5. เรียนรู้ความจริงว่าเราไม่สามารถบังคับผู้อื่น
ให้คิดและทำในสิ่งที่เราต้องการได้ เพราะแม้
แต่ตัวเราเอง ยังทำให้เป็นอย่างที่เราต้องการ
ไม่ได้เลย
6. อย่าเสียเวลาคิดแค้นเคืองโกรธในการ
กระทำของผู้อื่นที่ส่งผลให้เราทุกข์ใจ ให้อภัย
เขาเสีย และหากอยากรู้สึกดีขึ้นก็นึกถึงคำสอน
ในพุทธศาสนาว่า ใครทำกรรมใดไว้ ผู้นั้นย่อม
ได้รับผลนั้นได้ด้วยตนเอง
7. วัตถุหรือภาพลวงตาภายนอกไม่เคย
สามารถเติมเต็มหัวใจใครได้ การตั้งหน้าตั้งตา
หาวัตถุ หรือความพึงพอใจจากการประสบ
ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพื่อหวังว่าจะ
ทำให้เรารู้สึกเต็มและมีความสุข นั่นเป็นแค่
ฝันลมๆแล้งๆ การรับวัตถุทำให้เรามีความ
ต้องการไม่รู้จบ ขณะที่การได้รับความรัก
ความเข้าใจจากคนที่รักอย่างเต็มเปี่ยมจะทำ
ให้เรามีหัวใจที่ “เต็ม”จนไม่ต้องไขว่คว้าหาวัตถุ
มาเติมเต็มหัวใจอีก
พระครูภาวนาสารบัณฑิต,ดร.
ผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ