Uncategorized
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เยี่ยมชม มจร
วันจันทร์ที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. พระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดี พร้อมผู้บริหาร ๓๗ รูป ร่วมต้อนรับคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ณ ห้องประชุม ๔๐๑ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย อยุธยา โดยมีนี้พระราชปริยัติกวี,ศ.ดร. อธิการบดี ได้กล่าวต้อนรับ
หลังจากนั้น ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มอบนโยบายให้แก่มหาวิทยาลัย ดังนี้ ในยุคปัจจุบันการสร้างองค์ความรู้ผ่านงานวิจัยเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการผลิตบัณฑิต เพราะสิ่งนี้คือการสร้างคนให้เป็นประชากรที่ดีต่อไปของประเทศ ซึ่งภายในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีพันธกิจที่สำคัญและแตกต่างจากมหาวิทยาลัยทั่วไป คือมีการเน้นในเรื่องการพัฒนาจิตใจ อีกทั้งมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีนัยะสำคัญต่อประเทศในการกระตุ้น เรื่องปัญญามนุษย์ Human Wisdom และเรื่องของจิตใจ ซึ่งมองว่า ในช่วงศตวรรษที่ ๒๑ การศึกษาจะเป็นวิถีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งทำให้ฐานลูกค้าของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่แค่บัณฑิตเท่านั้น มหาวิทยาลัยยังสามารถขยายฐานลูกค้าเป็นกลุ่มบุคคลวัยทำงาน หรือวัยผู้สูงอายุ
และสำคัญอย่างยิ่ง โครงการวัดประชารัฐสร้างสุข (บวร) บ้าน วัด โรงเรียน เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยควรยึดถือปฏิบัติต่อไป
และสิ่งสำคัญของมหาวิทยาลัยอีกสิ่งหนึ่ง คือการให้ประชาชนกลับมาเป็นปกติสุข และในศตวรรษที่ ๒๑
มหาวิทยาลัยควรยึดหลัก ๔c ได้แก่ concept คือพุทธศาสนา content คือการที่มหาวิทยาลัยนำพระไตรปิฎกไปถ่ายทอดความรู้ได้ context บริบท ทำอย่างไรให้คนศตวรรษที่ ๒๑ ให้หันมาสนใจ หลักธรรม เข้าใจถึงบริบทได้ communication การสื่อสารหลักธรรมให้เข้าไปอยู่ในใจมนุษย์ได้
ในปัจจุบัน สังคมเริ่มความพอดี และปัญญาประดิษฐ์ เป็นตัวการทำลายปัญญามนุษย์ ซึ่งเป็นปัญหา หากมหาวิทยาลัยสามารถคิดโจทย์ศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้ง เปลี่ยนจาก me society เป็น we society ให้เป็นสังคมของเราได้จะเป็นสิ่งที่ดีและพัฒนาประเทศและโลกได้อีกมาก
โลกในแห่งอนาคต การใช้ชีวิตจะเป็นวงจร เรียนเพื่อทำงาน ทำงานเพื่อใช้ชีวิต ใช้ชีวิตแบบยาวนานขึ้นก็ต้องเรียน เปลี่ยนเป็นวงจรชีวิตในยุคศตวรรษที่๒๑ ซึ่งมหาลัยจะต้องทำให้คนมีชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในวงจรชีวิตในศตวรรษที่๒๑ ให้ได้ และถ้ามหาวิทยาลัยมีบทบาท ภาระชัดขึ้น ทบทวนช่องว่างของยุทธศาสตร์ และสร้างเพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาด พัฒนายุทธศาสตร์ และทำวิจัยเป็น Grand Challenges ว่าคนทั้งโลกกำลังเผชิญอะไร การสร้างโจทย์วิจัยมาช่วยแก้ปัญหา เราต้องดำเนินการไปในทิศไหน เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งเป็นวาระของชาติและวาระของโลก
จากนั้นร่วมกันถ่ายภาพหมู่ มอบของที่ระลึกและเยี่ยมชมสถานที่ภายในมหาวิทยาลัย และร่วมปลูกต้นไม้บริเวณศาลาการเปรียญ วัดมหาจุฬาลงกรณราชูทิศ เสร็จแล้วได้เดินทางกลับ ในเวลา ๑๖.๐๐ น.
กองสื่อสารองค์กร รายงาน